1. เตรียมสิ่งของและนำมาไว้ที่ข้างเตียง
2. เตรียมผู้ป่วย: ผู้ที่มีสติสัมปชัญญะควรอธิบายเพื่อให้ได้รับความร่วมมือ และจัดท่านั่งหรือนอน ผู้ป่วยที่อยู่ในอาการโคม่าควรนอนลง เอนศีรษะไปด้านหลัง วางผ้าขนหนูสำหรับเช็ดแผลไว้ใต้ขากรรไกร และตรวจสอบและทำความสะอาดโพรงจมูกด้วยสำลีชุบน้ำหมาดๆ เตรียมเทป: สองชิ้น ขนาด 6 ซม. และหนึ่งชิ้น ขนาด 1 ซม. 3. จับสายยางกระเพาะอาหารด้วยมือซ้าย โดยใช้ผ้าก๊อซจับไว้ และมือขวาจับคีมคีบหลอดเลือดเพื่อหนีบความยาวของสายยางที่ปลายด้านหน้าของสายยางกระเพาะอาหาร สำหรับผู้ใหญ่ 45-55 ซม. (ติ่งหู-ปลายจมูก-กระดูกลิ้นไก่) ทารกและเด็กเล็ก 14-18 ซม. ทำเครื่องหมายด้วยเทปยาว 1 ซม. เพื่อหล่อลื่นสายยางกระเพาะอาหาร
3. มือซ้ายจับผ้าก๊อซเพื่อพยุงสายยางกระเพาะอาหาร และมือขวาจับที่หนีบหลอดเลือดเพื่อหนีบส่วนหน้าของสายยางกระเพาะอาหาร แล้วค่อยๆ สอดเข้าไปตามรูจมูกข้างหนึ่ง เมื่อสายยางถึงคอหอย (14-16 ซม.) ให้ผู้ป่วยกลืนน้ำลายพร้อมกับสอดสายยางลงไป หากผู้ป่วยมีอาการคลื่นไส้ ควรหยุดการสอดสายยาง และให้ผู้ป่วยหายใจเข้าลึกๆ หรือกลืนน้ำลาย แล้วสอดสายยางกระเพาะอาหารเข้าไป 45-55 ซม. เพื่อบรรเทาอาการ หากสอดสายยางไม่เรียบ ให้ตรวจสอบว่าสายยางกระเพาะอาหารอยู่ในปากหรือไม่ หากพบอาการไอ หายใจลำบาก ตัวเขียวคล้ำ ฯลฯ ระหว่างการใส่ท่อช่วยหายใจ แสดงว่ามีการสอดสายยางเข้าไปในหลอดลมโดยไม่ได้ตั้งใจ ควรดึงสายยางออกทันทีและใส่กลับเข้าไปใหม่หลังจากพักสักครู่
4. ผู้ป่วยที่อยู่ในอาการโคม่าไม่สามารถให้ความร่วมมือได้เนื่องจากปฏิกิริยาการกลืนและไอหายไป เพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จของการใส่ท่อช่วยหายใจ เมื่อสอดท่อกระเพาะอาหารเข้าไปถึง 15 ซม. (ฝาปิดกล่องเสียง) ให้วางชามใส่น้ำลายไว้ข้างปาก และใช้มือซ้ายยกศีรษะผู้ป่วยขึ้น ให้ขากรรไกรล่างชิดกับก้านกระดูกอก แล้วค่อยๆ สอดท่อเข้าไป
5. ตรวจสอบว่าท่อใส่กระเพาะอยู่ในกระเพาะอาหารหรือไม่
5.1 วางปลายเปิดของสายยางกระเพาะลงในน้ำ หากมีก๊าซรั่วออกมาจำนวนมาก แสดงว่าก๊าซนั้นเข้าไปในหลอดลมโดยไม่ได้ตั้งใจ
5.2 ดูดน้ำย่อยในกระเพาะด้วยเข็มฉีดยา
5.3 ฉีดอากาศเข้าไป 10 ซม. ด้วยกระบอกฉีดยา และฟังเสียงน้ำในกระเพาะอาหารด้วยหูฟัง
6. ติดเทปที่สายยางกระเพาะทั้งสองข้างของจมูก ต่อกระบอกฉีดยาที่ปลายเปิด ดึงออกก่อน แล้วดูว่าน้ำย่อยในกระเพาะถูกดูดออกมาหรือไม่ ฉีดน้ำอุ่นปริมาณเล็กน้อยก่อน จากนั้นฉีดของเหลวหรือยา แล้วจึงฉีดน้ำอุ่นปริมาณเล็กน้อยเพื่อทำความสะอาดช่องเปิด ขณะให้อาหาร ระวังอย่าให้อากาศเข้า
7. ยกปลายของท่อย่อยอาหารขึ้นแล้วพับขึ้น พันด้วยผ้าก๊อซแล้วพันให้แน่นด้วยยางรัด แล้วใช้หมุดติดไว้ข้างหมอนของผู้ป่วย
8. จัดระเบียบหน่วยงาน จัดเก็บอุปกรณ์ให้เป็นระเบียบ และบันทึกปริมาณการให้อาหารทางจมูก
9. เมื่อถอดท่อช่วยหายใจ ให้พับและยึดหัวฉีดด้วยมือข้างเดียว
เวลาโพสต์: 16 ก.ค. 2564